วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาการว่างงาน

              ที่จีนจะต้องเปิดเสรีหลังการเป็นสมาชิกองค์การค้าโลกจะบีบบังคับให้อุตสาหกรรมจีน ต้องลดต้นทุน ด้วยการลดคนงานลง ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ทางสังคมต่อไป  การปฏิรูป รัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่ปี 1977 ทำให้คนงานในเมืองต้องถูกปลดปีละ 7-8 ล้านคน และช่วงกลางปี 2002  มีคนงานรัฐวิสาหกิจถูกปลดไปแล้วรวม 24 ล้านคน แม้จะมีตำแหน่งงานใหม่ เพิ่มปีละ 8 ล้านคน แต่ก็ไม่ทันรับคนที่เติบโตมาเป็นแรงงานใหม่ที่เข้ามาหางานปีละ 10 ล้านคน ทั้งนี้ยังไม่นับพวกทำงานต่ำกว่าระดับหรือ การว่างงานแบบแอบแฝง ในชนบทจำนวนมหาศาลอีก สถิติการว่างงานภายในเมืองของทางราชการเพิ่มจาก 1.8% ของกำลังแรงงาน ในปี 1985 เป็น 4.4% ในปี 2002 แต่ถ้าคิดรวม คนงานรัฐวิสาหกิจที่ถูกปลดออกแล้ว สถิติการว่างงานน่าจะอยู่ที่ 7.8% ของกำลังแรงงาน ทั้งนี้ไม่รวมคนอพยพมาหางานในเมืองที่มาคอยรองานรับจ้างรายวันที่ไม่มีให้ทำ ทุกวันอีกหลายล้านคน ซึ่งก่อให้ไปเกิดปัญหาความไม่มั่นคงทางสังคม
              ปัญหาการว่างงานแอบแฝง ในชนบทนับวันจะเพิ่มมากขึ้น  เพราะเกษตรกรขนาดเล็ก จะแข่งขันสู้บริษัทเกษตรกรรมขนาดใหญ่ จากต่างชาติ ไม่ได้   คนชนบทมีความไม่พอใจมากขึ้น ทั้งจากปัญหาความแตกต่างทางรายได้ที่ห่างกันมากขึ้น ระหว่างเมืองกับชนบท , การขึ้นภาษี และ การบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลท้องถิ่น การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลกลาง เช่น การฝึกอบรมแรงงานใหม่ , การปฏิรูประบบประกันสังคมใหม่ ทำได้ค่อนข้างล่าช้า และไม่เพียงพอ สิ่งที่รัฐบาลจีนต้องพึ่งคือ การทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงต่อไปเพราะเชื่อว่า นี่คือ การแก้ปัญหาเรื่องการจ้างงานและเพิ่มรายได้ ถ้าเศรษฐกิจทำท่าชลอตัว รัฐบาลก็จะใช้วิธีขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น