อันเป็นเหตุก่อให้เกิดการจลาจล ซึ่งชาวจีนนิยมเรียกกันว่าการปฏิวัติครั้งที่ ๒ ในกลางปี ๑๙๑๓ ได้เกิดความไม่สงบขึ้นเนือง ๆ ตอนลุ่มแม่น้ำแยงซี และเมื่อหยวนแต่งตั้งนายทหารซึ่งเป็นพรรคพวกของตัวเข้าไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับการทหารแทนพวกก๊กมินตั๋งในมณฑลเกียงซีและอันฮุย ได้ก่อให้เกเดกบฏขึ้นอย่างแพร่หลาย ในวันที่ ๒ กรกฎาคม ซุนส่งโทรเลขไปยังหยวนขอให้ลาออกจากตำแหน่ง หยวนตอบโต้ซุนด้วยการปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการพัฒนาการรถไฟในวันที่ ๒๓ ก่อนหน้านั้นคือวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ผู้ก่อการกบฏได้เข้าโจมตีกองทหารรัฐบาลที่จิ่วเจียง และในวันที่ ๑๔ เมืองนานกิงประกาศตั้งตัวเป็นอิสระโดยมีหวงซิงเป็นแม่ทัพตั้งใจจะส่งทหารขึ้นไปปราบหยวน มณฑลเสฉวน เกียงซี เกียงซู อันฮุย และกวางตุ้ง ประกาศเข้าข้างฝ่ายกบฏ แต่นายทหารในส่วนภูมิภาคไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้แต่ใน ก๊กมินตั๋งเองก็มีความเห็นแตกแยกกันระหว่างพวกนิยมใช้วิถีทางตามระบบรัฐสภากับพวกที่ต้องการใช้กำลัง ในชั่วระยะเวลาอันสั้น กำลังฝ่ายหยวนสามารถปราบฝ่ายกบฏได้ ซุนต้องพเนจรไปอยู่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ ๘ สิงหาคม แต่ยังติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพรรพวกของเขาในผืนแผ่นดินใหญ่ ในการลี้ภัยการเมืองครั้งนี้ภรรยาของเขาปฏิเสธที่จะติดตามไปด้วย ด้วยเหตุผลที่จะต้องอยู่ดูแลบิดามารดาผู้ชรา ซุนได้หย่าร้างกับภรรยาเดิมและในเดือนตุลาคม ๑๙๑๕ ได้สมรสใหม่กับสุ้ง ชิ่งหลิง บุตรสาวของเพื่อนผู้ได้ผ่านการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา
วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น