วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บทบาทของนักศึกษา

ปัญญาชนของจีนเช่นเดียวกับปัญญาชนของประเทศอื่น ๆ ที่ด้อยความเจริญ   ได้รับการเทิดทูนจากสังคมอย่างสูง   เริ่มตั้งแต่การจัดตั้งสมาคมสหชน  จนกระทั่งการปฏิวัติสำเร็จ   นักศึกษาทั้งภายในและภายนอกประเทศมีส่วนร่วมที่สำคัญในผลสำเร็จของการปฏิวัติ  ภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง  ขบวนการสี่พฤษภาคมได้ดำเนินการไปอย่างกว้างขวางด้วยการนำของนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง
                ขบวนการสี่พฤษภาคม  เป็นขบวนการแสดงความรักชาติอันเป็นผลิตผลของระบอบประชาธิปไตยในระยะ  ๑๐  ปีแรกแห่งการปฏิวัติ  เหตุการณ์ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่    พฤษภาคม ๑๙๑๙  เมื่อถูกเร้าโดยมติของการประชุมสันติภาพ    พระราชวังแวร์ซายส์  ที่ให้ญี่ปุ่นรับช่วงสิทธิพิเศษในมณฑลซันตุงจากเยอรมัน    นักศึกษาประมาณ  ๕,๐๐๐  คนมาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและสถานศึกษาขั้นสูงในกรุงปักกิ่ง  ได้จัดการเดินขบวนคัดค้านมติของที่ประชุมสันติภาพ  ผู้เดินขบวนได้เผาบ้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่ง  เฉายู่หลิน  ผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติ  เพราะเป็นผู้เจรจาและทำสนธิสัญญากับญี่ปุ่น  รับรองสิทธิในสัมปทานของญี่ปุ่นที่เรียกร้องในข้อเรียกร้อง  ๒๑   ประการ   จัง จุงเสียง   อัครรัฐทูตจีนประจำญี่ปุ่นได้ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตายในวันรุ่งขึ้น  รัฐบาลตอบโตด้วยการตัดสินประหารชีวิตนักศึกษา  ๓๒   คน  และจับนักศึกษาเข้าห้องขังเป็นอันมาก   นักศึกษานัดหยุดเรียนและส่งโทรเลขติดต่อไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศ  การเดินขบวนได้แพร่หลายไปยังกรุงเทียนสิน  เซี่ยงไฮ้  นานกิง  ฮั่นโขว  ฝูโจว  และกวางตุ้ง  ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง มีนักเรียนนักศึกษาเป็นอันมากได้รับบาดเจ็บ  และถึงแก่ความตายจากการปฏิวัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
                ปรากฏว่าประชาชนทั่วไป   ให้ความสนับสนุนการแสดงความรักชาติของนักเรียนนักศึกษา   พ่อค้าในศูนย์การค้าสำคัญต่าง ๆ ก็ได้พาพันปิดร้านสไตร๊ค์ร่วมกับนักศึกษา  ในเดือนมิถุนายน   ขบวนการไดขยายไปถึงการบอยคอตต์สินค้าญี่ปุ่น  ซึ่งก่อให้เกิดการประทะชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในจีน  ในขณะเดียวกันสหพันธ์กรรมกรได้ร่วมกันเดนขบวนประท้วงร่วมกับนักเรียนนักศึกษาอย่างกว้างขวาง  ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์จีน
                ขบวนการสี่พฤษภาคมนับว่ามีความสำคัญ  เพราะเป็นการย้ายศูนย์กลางของน้ำหนักของประชามติของจีน  ซึ่งเคยอยู่กับพวกข้าราชการและชนชั้นผู้ดีนั้นมอยู่กับมือของชนชั้นใหม่  และเป้าโจมตีของชนชั้นใหม่นี้อยู่ที่การต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมและขุนศึกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน  ที่นักเรียนนักศึกษาแสดงวามสนใจ  ที่ออกหน้าเข้ารับภาระชะตากรรมของประเทศ    นักการเมือง  และนักการทหารผู้ฉวยโอกาสพากันตะลึงถึงพลังของเยาวชน  ซุนได้มองเห็นทางสายใหม่  เข้าได้เริ่มผู้นำนักศึกษาเข้าเป็นสมาชิกของพรรค   การเชื่อมสัมพันธไมตรีกับนักเรียนนักศึกษาก้าวใหม่นี้  ได้ทำให้พรรคมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นกังไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติของพรรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น