ปัญญาชนของจีนเช่นเดียวกับปัญญาชนของประเทศอื่น ๆ ที่ด้อยความเจริญ ได้รับการเทิดทูนจากสังคมอย่างสูง เริ่มตั้งแต่การจัดตั้งสมาคมสหชน จนกระทั่งการปฏิวัติสำเร็จ นักศึกษาทั้งภายในและภายนอกประเทศมีส่วนร่วมที่สำคัญในผลสำเร็จของการปฏิวัติ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ขบวนการสี่พฤษภาคมได้ดำเนินการไปอย่างกว้างขวางด้วยการนำของนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ขบวนการสี่พฤษภาคม เป็นขบวนการแสดงความรักชาติอันเป็นผลิตผลของระบอบประชาธิปไตยในระยะ ๑๐ ปีแรกแห่งการปฏิวัติ เหตุการณ์ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๑๙๑๙ เมื่อถูกเร้าโดยมติของการประชุมสันติภาพ ณ พระราชวังแวร์ซายส์ ที่ให้ญี่ปุ่นรับช่วงสิทธิพิเศษในมณฑลซันตุงจากเยอรมัน นักศึกษาประมาณ ๕,๐๐๐ คนมาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและสถานศึกษาขั้นสูงในกรุงปักกิ่ง ได้จัดการเดินขบวนคัดค้านมติของที่ประชุมสันติภาพ ผู้เดินขบวนได้เผาบ้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่ง เฉายู่หลิน ผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติ เพราะเป็นผู้เจรจาและทำสนธิสัญญากับญี่ปุ่น รับรองสิทธิในสัมปทานของญี่ปุ่นที่เรียกร้องในข้อเรียกร้อง ๒๑ ประการ จัง จุงเสียง อัครรัฐทูตจีนประจำญี่ปุ่นได้ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตายในวันรุ่งขึ้น รัฐบาลตอบโตด้วยการตัดสินประหารชีวิตนักศึกษา ๓๒ คน และจับนักศึกษาเข้าห้องขังเป็นอันมาก นักศึกษานัดหยุดเรียนและส่งโทรเลขติดต่อไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศ การเดินขบวนได้แพร่หลายไปยังกรุงเทียนสิน เซี่ยงไฮ้ นานกิง ฮั่นโขว ฝูโจว และกวางตุ้ง ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง มีนักเรียนนักศึกษาเป็นอันมากได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตายจากการปฏิวัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ปรากฏว่าประชาชนทั่วไป ให้ความสนับสนุนการแสดงความรักชาติของนักเรียนนักศึกษา พ่อค้าในศูนย์การค้าสำคัญต่าง ๆ ก็ได้พาพันปิดร้านสไตร๊ค์ร่วมกับนักศึกษา ในเดือนมิถุนายน ขบวนการไดขยายไปถึงการบอยคอตต์สินค้าญี่ปุ่น ซึ่งก่อให้เกิดการประทะชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในจีน ในขณะเดียวกันสหพันธ์กรรมกรได้ร่วมกันเดนขบวนประท้วงร่วมกับนักเรียนนักศึกษาอย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์จีน
ขบวนการสี่พฤษภาคมนับว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นการย้ายศูนย์กลางของน้ำหนักของประชามติของจีน ซึ่งเคยอยู่กับพวกข้าราชการและชนชั้นผู้ดีนั้นมอยู่กับมือของชนชั้นใหม่ และเป้าโจมตีของชนชั้นใหม่นี้อยู่ที่การต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมและขุนศึกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน ที่นักเรียนนักศึกษาแสดงวามสนใจ ที่ออกหน้าเข้ารับภาระชะตากรรมของประเทศ นักการเมือง และนักการทหารผู้ฉวยโอกาสพากันตะลึงถึงพลังของเยาวชน ซุนได้มองเห็นทางสายใหม่ เข้าได้เริ่มผู้นำนักศึกษาเข้าเป็นสมาชิกของพรรค การเชื่อมสัมพันธไมตรีกับนักเรียนนักศึกษาก้าวใหม่นี้ ได้ทำให้พรรคมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นกังไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติของพรรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น